จะซื้อโซฟา วินเทจ สวย ๆ ไว้ตกแต่งบ้านทั้งทีต้องพิจารณาองค์ประกอบอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับการเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ฉบับ

โซฟา วินเทจ ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านยอดนิยมที่เรามักจะเห็นวางขายตามหน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงขายบนเว็บไซต์ ซึ่งทำให้เราสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าแต่ละชิ้นเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะสามารถเข้าไปชมโซฟา วินเทจ ของจริงได้หรือไม่ สิ่งหนึ่งที่เราควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกก่อนตัดสินใจเลือกซื้อก็คือ ทำอย่างไรจึงจะได้โซฟา วินเทจที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์การตกแต่งบ้านอย่างแท้จริง ดังนั้น วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้แบบมือโปรมาฝากกัน รับรองว่าทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างแน่นอน เอาล่ะ ไม่รอช้า เราตามไปชมกันเลย

1. วัดขนาดพื้นที่จัดวางโซฟา วินเทจ

อันดับแรกคือ เราควรวัดขนาดพื้นที่จริงภายในห้องสำหรับจัดวางโซฟา วินเทจ โดยเริ่มจากวัดความกว้าง x ยาว x ลึก x สูง รวมถึงมุมทแยงตามที่คุณต้องการ และ หากตำแหน่งโซฟาที่เราต้องการจัดวางอยู่ใกล้กับประตู ควรเว้นระยะห่างประมาณ 1 - 1.5 เมตร เพื่อที่จะได้ไม่เปิดประตูเข้า-ออกชนกับโซฟา ในขณะเดียวกันต้องเว้นระยะห่างสำหรับพื้นที่ทางเดินไว้ประมาณ 1.5 - 2 เมตร เพื่อให้การเข้าออกห้องทำได้อย่างสะดวก

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นั่นคือเราควรวัดขนาดทางเดินที่จะทำการเคลื่อนย้ายโซฟา วินเทจเข้ามา เช่น ประตู บันได หรือทางเดินระหว่างอาคาร เพื่อทำให้การขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ติดขัด และท่ีสำคัญคือโซฟาตัวใหม่ของเราจะไม่เกิดร่องรอยขีดข่วนใด ๆ ในระหว่างการติดตั้งนั่นเอง

2. เลือกประเภทของโซฟา วินเทจ

เมื่อเราได้ขนาดพื้นที่สำหรับวางโซฟา วินเทจ แน่นอนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกประเภทของโซฟาให้เหมาะสมกับพื้นที่ ซึ่งในปัจจุบันมีวางขายหลากหลายรูปแบบ ดังต่อไปนี้

- โซฟาทั่วไป เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มาพร้อมพนักพิงและเท้าแขนยาว ส่วนใหญ่มักผลิตในรูปแบบทรงกลมและสี่เหลี่ยมจำนวน 2 - 3 ที่นั่ง โดยโซฟาลักษณะนี้เหมาะสำหรับห้องมีบริเวณกว้าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของเราด้วย

- โซฟาเดย์เบด เป็นเฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ที่สามารถใช้นั่งหรือนอนก็ได้ ซึ่งเหมาะกับห้องมีพื้นที่จำกัด แต่ต้องการใช้ฟังก์ชันเสริมของโซฟา วินเทจลักษณะนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

- โซฟา เบด เหมาะกับห้องพื้นที่จำกัด เนื่องจากตัวเฟอร์นิเจอร์เองเป็นแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน โดยสามารถปรับพนักพิงขึ้นมาหากต้องการใช้เป็นโซฟา ในขณะเดียวก็สามารถปรับพนักพิงไปทางด้านหลังให้เอนราบกับเบาะเพื่อใช้เป็นที่นอนได้

3. เลือกวัสดุหุ้มโซฟา

เนื่องจากโซฟา วินเทจ ที่วางขายในปัจจุบันผลิตด้วยวัสดุหลากหลายประเภท โดยแต่ละประเภทก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ซึ่งเราสามารถแบ่งออกมาได้ดังนี้

- โซฟาหนังแท้ จะมีราคาสูง เพราะทำมาจากวัสดุเกรดคุณภาพ ซึ่งจะให้ความรู้สึกนิ่มสบาย ทนทาน และระบายอากาศได้ดี นอกจากนี้ ยังมีโซฟาหนังเทียมซึ่งผิวของโซฟาผลิตจาก PVC และ PU จึงทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงสามารถเลือกลวดลายและสีสันได้มากกว่าโซฟาหนังแท้ 

อย่างไรก็ตาม โซฟาหนังทั้งสองแบบนี้เหมาะกับผู้ที่อาการของโรคภูมิแพ้ เพราะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุไม่เก็บฝุ่นละอองและเส้นผมนั่นเอง 

- โซฟาผ้า มีจุดเด่นคือระบายความร้อนได้ดี ทนทาน ไม่ยับง่ายแม้จะผลิตมาจากผ้าใยธรรมชาติ และใยสังเคราะห์ รวมถึงมีลวดลายให้เลือกมากกว่าโซฟาหนัง ในขณะเดียวกันโซฟา วินเทจลักษณะนี้มีข้อเสียคือ สามารถกักเก็บฝุ่นละอองได้มากกว่าวัสดุชนิดอื่น ๆ จึงไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคทางเดินหายใจ และมีสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันก็มีโซฟา วินเทจที่สามารถถอดออกมาซักได้ คล้ายกับผ้าคลุมโซฟา ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังชื่นชอบวัสดุประเภทนี้

สรุป

การเลือกซื้อโซฟา วินเทจ แบบมือโปรควรคำนึงถึงขนาดพื้นที่ภายในห้อง เมื่อเราทราบขนาดที่แน่นอนแล้วจึงเลือกรูปแบบของโซฟา ก่อนปิดท้ายด้วยการตัดสินใจเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตเป็นอันเสร็จสิ้น เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราได้โซฟา วินเทจ ตามต้องการและตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง

สำหรับใครที่ต้องการเลือกชมโซฟา วินเทจ ดีไซน์สวย ๆ มีคุณภาพ เอาไว้ตกแต่งห้องต่าง ๆ สามารถเข้ามาดูสินค้าของเราได้ที่ Chic Republic ทุกสาขา รับรองมาแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน